เรา รัก พระเจ้าอยู่หัว ^ ^

เรา รัก พระเจ้าอยู่หัว ^ ^
พระองค์ ทรงพระเจริญ

Best Team In My Heart

Best Team In My Heart

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สนามกีฬากรุงโรม Colosseum of Rome กรุงโรม



ประเทศอิตาลี สนามกีฬากลางแจ้ง แห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้าง ที่มีชื่อเสียงของโลก อย่างหนึ่ง เป็นอนุสรณ์ที่ ใหญ่โตของอาณาจักร รมันสมัยโบราณ สร้างขึ้น ในระหว่างสิพ.ศ. 615 ถึง 623 (ค.ศ. ที่ 72 ถึง 80) ตัวสนามสร้างมีรูปเป็นตึก วงกลมก่อด้วยอิฐและหินขนาดใหญ่ วัดโดยรอบยาว 527 เมตร สูง 57 เมตร มี 4 ชั้น ายในมีอัฒจรรย์สำหรับคนนั่งดู จุคนดูประมาณ 80,000 คน ใต้อัฒจรรย์ และใต้ดิน มีห้องสำหรับขังนักโทษ ที่รอการ ประหารชีวิต และสิงโต หลายร้อยห้อง ใช้เป็นสถานที่ให้นักโทษ ต่อสู้กับสิงโตที่อดอาหาร หากนักโทษผู้ใดเอาชนะ ฆ่าสิงโตได้ด้วยมือเปล่าได้ ก็ รอดชีวิตไป หรือ ไว้ใช้เป็นที่ประลองฝีมือในเชิงฟันดาบ ของบรรดาเหล่าทาส ให้ต่อสู้กันเอง ยิ่งถ้าต่อสู้กัน นถึงสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ตาย ก็จะได้รับเกียรติอย่างสูง เพราะเป็นการ ต่อสู้ที่ชาวโรมันนิยมและยกย่องกันมาก ต้องสูญเสียชีวิตนักโทษและทาสไม่ต่ำกว่าร้อยคน สนามกีฬาแห่งนี้ จึงเป็นสิ่งก่อสร้าง ที่แสดงถึง ความรุ่งโรจน์ ของอาณาจักรโรมันโบราณ แต่เมื่ออาณาจักรโรมัน เสื่อมลงชัก็ถูกข้าศึกทำลายหลายครั้งหลายหน ในปัจจุบันยัง เหลือแต่ซากโครงสร้าง อันใหญ่โตมโหฬารไว้ให้ชม

หอไอเฟล (Eiffel Tower)




หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟล เป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก อีกด้วย หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้าง ที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยตั้งชื่อตาม สถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในปี พ.ศ. 2549 เมื่อหอไอเฟลสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2432 หอไอเฟลกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนที่อนุสาวรีย์วอชิงตัน และได้ครองตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2473 ็ได้เสียตำแหน่ง ให้แก่ตึก ไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ปัจจุบันฟอไอเฟล สูงเป็น อันดับที่ 5 ในประเทศฝรั่งเศสและสูงที่สุดในกรุงปารีสนักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คน ได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้ หอไอเฟล เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปี อีกด้วย หอไอเฟลมีความสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) (รวมเสาอากาศสูง 24 เมตร (79 ฟุต)) ซึ่งก็สูง เท่ากับตึก 81 ชั้น
น้ำหนักเหล็กที่ใช้ก่อสร้างนั้นทั้งหมด 7,300 ตัน และถ้ารวมทั้งหมดก็เป็น 10,000 ตัน ส่วนจำนวนบันไดนั้นเปลี่ยนแปลงตลอด เมื่อแรกเริ่มนั้นมี 1710 ขั้น ในทศวรรษที่ 1980 มี 1920 ขั้น และในปัจจุบัน มี 1665 ขั้น หอมีสามระดับสำหรับผู้เข้าชม.ตั๋วสามารถซื้อเพื่อขึ้นทั้ง ทางบันได หรือ ลิฟต์

การแต่งหน้าสำหรับตอนกลางคืน

•ทาครีมรองพื้นให้หนากว่าตอนกลางวัน โดยใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ กับแป้งแข็ง ผสมรองพื้นเกลี่ยให้เนียนเรียบทั่วใบหน้า

•ปกปิดริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ดวงตาด้วยครีมรองพื้นรอบดวงตา และ ปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง

•ปัดทับด้วยแป้งฝุ่นอีกครั้ง

•ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีเข้มกว่าสีคิ้วธรรมชาติ เขียนคิ้วให้ได้สัดส่วนและดูเป็นธรรมชาติ

•ทาตาด้วยที่ทาตาสีอ่อนจากขอบตาจนถึงคิ้ว

•ทาสีเข้มเป็นเส้นบางๆ บริเวณรอบพับบนเปลือกตา จะำทำให้ดวงตาดูโตขึ้นและโหนกคิ้วดูเด่นขึ้น

•เกลี่ยด้วยที่ทาตาสีกลางเพื่อเน้นความงามและทำให้ดวงตาแลดูคมเข้มขึ้น

•วาดไฟน์ไลเนอร์สีดำที่ขนตาด้านบน โดยเริ่มจากหัวตาเป็นเส้นบางๆ ก่อนแล้วเริ่มวามให้หนาขึ้นตรงบริเวณม่านตา จากนั้นลากเส้นต่อในแนวเฉียงขึ้นเหนือหางตา

•ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดที่ขอบตาด้านล่าง

•ไม่ควรเขียนขอบตาจนถึงหางตาเพราะจะทำให้ดวงตาเล็กลง

•ปัดมาสคาร่า 2 ครั้งที่ขนตาบนและล่าง

•ปัดแก้มด้วยที่ทาแก้มแบบฝุ่นสีกลางและสีเข้มบริเวณใต้โหนกแก้ม ปัดสีอ่อนกว่าทับสีเข้ม บริเวณกลางแก้ม และเกลี่ยขึ้นไปจนถึงบริเวณแนวเส้นผม

•วาดรูปปากด้วยดินสอเขียนขอบปาก แล้วจึงทาลิปสติก

การแต่งหน้ากรณีพิเศษ

การแต่งหน้าสำหรับตอนกลางวัน

•ลงครีมรองพื้นชนิดเหลวที่เหมาะกับสภาพผิวเพียงบางๆ

•ปกปิดริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ดวงดาด้วครีมรอบพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง และเกลี่ยให้เนียนเรียบ

•ทาทับแป้งฝุ่นให้ทั่วใบหน้า

•ใช้แปรงปัดขนคิ้ววาดให้ดูเป็นรูปคิ้วสวยงามแต่ไม่คมชัดจนเกินไป

•ใช้ดินสอเขียนขอบตาวาดเส้นตามแนวขอบตาด้านบน

•ทาตาด้วยที่ทางตาสีอ่อนหรือสีกลางจากขอบตาจนถึงคิ้ว

•ทางสีเข้มเพื่อเพิ่มความเ่ด่นบนดวงตา เกลี่ยให้ทั่วแนวโหนกคิ้วเพื่อให้ดวงตาเป็นรูปอัลมอนด์ สามารถใช้สีเดียวกันนี้ทาไล้ไปตามแนวขอบตาด้านล่างได้

•ปัดมาสคาร่าที่ขนตาด้านบนและด้านล่าง

•ปัดที่ทาแก้มแบบฝุ่นบางๆ ที่ได้บริเวณโหนกแก้มไปจนถึงแนวเส้นผม

•ใช้ดินสอเขียนขอบปากวาดรูปปากแล้วทาลิปสติกสีกลางหรือสีเข้มสำหรับวันทำงาน และสีอ่อนสำหรับวันพักผ่อน

การทาที่ทาตาแบบฝุ่น


•ควรทาตาแบบฝุ่นอย่างน้อย 3 สีในเฉดเีดียวกัน

•ลงสีอ่อนสุดทั่วเปลือกตาและโหนกคิ้ว เกลี่ยให้เนียนเรียบ

•จากนั้นลงสีกลางเป้นสีที่ 2 บริเวณหัวตามาจนถึงกึ่งกลางตา เกลี่ยให้เนื้อสีกลมกลืนกัน

•สุดท้ายให้ลงสีที่เข้มที่สุดบริเวณหางตา เกลี่ยเข้ามาจนถึงกึ่งกลางตาให้สีกระจายกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกันทั่งเปลือกตา อย่าให้เห็นเส้นแบบขอบสี

การเขียนขอบตา


•เริ่มเขียนจากของตาล่างจากหางตามาจนถึงกึ่งกลางตา โดยเขียนให้ชิดขอบตามากที่สุด

•ส่วนขอบตาบนให้เริ่มเขียนจากหางตามาจนถึงหัวตา โดยให้เส้นหางตาหนากว่าหัวตา

•บริเวณหางตาให้เขียนในลักษณะตัววี จากนั้นใช้ปลายดินสอเขียนขอบตาด้านที่เป็นฟองน้ำเกลี่ยเส้นขอบตาบนให้กระจายออก เพื่อทำให้ดวงตาดูนุ่มขึ้น

•ส่วนขอบตาล่างให้ใช้ปลายดินสอด้านที่เป็นฟองน้ำแต้มที่ทาตาแบบฝุ่นสีเีดียวกันเกลี่ยทับอีกครั้งหนึ่ง เพื่อป้องกันการซึมเยิ้มระหว่าวัน

การเขียนคิ้ว




•กันคิ้วให้ได้รูปก่อนเขียนคิ้วทุกครั้ง

•เริ่มเขียนจากหัวคิ้วไปจนถึงหางคิ้วโดยให้ส่วนหัวคิ้วตรงกับหัวตา จุดสูงสุดของคิ้ว ตรงกับขอบตาดำด้านนอก และความยาวของคิ้วให้ใช้พู่กันวางทาบจากปีกจมูกผ่านหางตาขึ้นมา

•ใช้พู่กันปลายตัดแต้มที่ทาตาแบบฝุ่นสีเดียวกับดินสอบเขียนคิ้วเกลี่ยทับเส้นคิ้ว โดยให้หัวคิ้ว สีอ่อนกว่าหางคิ้ว

•เกลี่ยให้สีจากดินสอเขียนคิ้วเป็นเนื้อเดียวกันกับที่ทาตาแบบฝุ่นให้เป็นธรรมชาติที่สุด

การทาแป้งฝุ่น




•ใช้พัฟฟ์แต้มแป้งฝุ่นแล้วนำมากดซับบนใบหน้าโดยใช้นิ้วกลางเป็นตัวลงน้ำหนักเพียงเบาๆ

•หากต้องการลงแป้งผุ่นแบบเบาบาง ให้ใช้พู่กันปลายใหญ่จุ่มแป้งฝุ่น เคาะแปรงเพื่อให้แป้งส่วนเกินหลุดออก ปัดให้ทั่วไปหน้าแทนการใช้พัฟฟ์

•หลังจากลงแป้งฝุ่นเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้พู่กันปลายใหญ่ปัดแป้งฝุ่นส่วนเกินออกให้หมดทุกครั้ง

•การลงแป้งฝุ่นควรลง 2 สี เพื่อเสริมสร้างมิติบนใบหน้าให้ดูเด่นชัดมากขึ้น คือ

•ใช้แป้งฝุ่นสีอ่อน สีแฟร์ บริเวณกึ่งกลางใบหน้าหรือจุดที่มีการลงไฮไลท์

•-ตามด้วแป้งฝุ่นสีเข้ม สีมีเดียม บริเวณกรอบหน้าหรือจุดที่มีการเฉดดิ้ง

ภาษาคาราโอเกะ

ปัญหาภาษาไทยที่มีผู้โทรศัพท์สอบถาม
มายังราชบัณฑิตยสถานบ่อยครั้ง คือ
การขอให้ช่วยเขียนภาษาคาราโอเกะ
เมื่อได้ฟังรายละเอียดจากผู้ถามจึงได้ทราบว่า
สิ่งที่ต้องการให้ช่วยก็คือการเขียนเนื้อเพลง
ภาษาไทยให้เป็นอักษรโรมันนั่นเอง

โดยปรกติ แผ่นซีดีคาราโอเกะจะมีเนื้อเพลง
ปรากฏบนจอเพื่อให้ร้องตามได้
ซีดีคาราโอเกะที่ต้องการเอาใจชาวต่างชาติ
โดยเฉพาะเพลงที่ดัง ๆ นอกจากจะมีเนื้อเพลงไทยแล้ว
ยังมีคำอ่านที่เป็นอักษรโรมันกำกับไว้
เพื่อให้ชาวต่างชาติร้องตามได้อีกด้วย

คำตอบเกี่ยวกับวิธีเขียนภาษาคาราโอเกะ
คือการแนะนำให้ใช้หลักเกณฑ์การถอดอักษรไทย
เป็นอักษรโรมันแบบถ่ายเสียง
ที่ราชบัณฑิตยสถานกำหนดขึ้นและประกาศใช้
ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๒

หลักเกณฑ์นี้ใช้วิธีถ่ายเสียง (tran scription)
เพื่อให้อ่านคำภาษาไทยที่เขียนด้วยอักษรโรมัน
ให้ได้เสียงใกล้เคียง โดยไม่คำนึงถึง
การสะกดการันต์และวรรณยุกต์

เช่น จันทร์ = chan, พระ = phra, แก้ว = kaeo
ในหลักเกณฑ์ได้เทียบเสียงพยัญชนะ และสระ
ไว้อย่างละเอียด รวมทั้งหลักในการถอดคำประเภทต่าง ๆ

ตัวอย่างการเทียบเสียงพยัญชนะ เช่น

ป = p เมื่อเป็นทั้งตัวต้นและตัวสะกด
ฏ, ต = t เมื่อเป็นทั้งตัวต้นและตัวสะกด
ก = k เมื่อเป็นทั้งตัวต้นและตัวสะกด
ผ, พ, ภ = ph เมื่อเป็นตัวต้น
และเป็น p เมื่อเป็นตัวสะกด

ฐ, ฑ, ฒ, ถ, ท, ธ = th เมื่อเป็นตัวต้น
และเป็น t เมื่อเป็นตัวสะกด

ข, ฃ, ค, ฅ, ฆ = kh เมื่อเป็นตัวต้น
และเป็น k เมื่อเป็นตัวสะกด

บ = b เมื่อเป็นตัวต้นและเป็น p เมื่อเป็นตัวสะกด

ฎ, ฑ (เสียง ด) ด = d เมื่อเป็นตัวต้น
และเป็น t เมื่อเป็นตัวสะกด

ตัวอย่างการเทียบเสียงสระ เช่น
สระอะ, -ั (อะลดรูป), รร (มีตัวสะกด), อา = a

สระอิ, อี = i
สระอุ, อู = u

สระโอะ, - (โอะ ลดรูป), โอ, เอาะ, ออ = o



ภาษาคาราโอเกะของเนื้อเพลงดังท่อนหนึ่ง
เมื่อเขียนตามหลักเกณฑ์ของราชบัณฑิตยสถาน
จะเป็นดังนี้

“นับเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุด
แม้เป็นแค่เพียงเวลาสั้น ๆ
แต่ก็เคยเกิดขึ้นกับฉัน เพราะเธอ”

เขียนเป็นภาษาคาราโอเกะแล้ว
ก็จะเป็นแบบนี้
“Nap pen chuang chiwit thi di thi sut
mae pen khae phiang wela san san
tae ko khoei koet khuen kap chan phro thoe”.

ประวัติศาสตร์ชาติไทย

ในการศึกษาประวัติศาสตร์ไทย นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่เริ่มนับตั้งแต่สมัยอาณาจักรสุโขทัยเป็นต้นมา หากแต่ในอาณาเขตประเทศไทย พบหลักฐานของมนุษย์ซึ่งมีอายุเก่าแก่ที่สุดถึงห้าแสนปี ทั้งยังมีหลักฐานของอารยธรรมและรัฐโบราณในอาณาเขตดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
อาณาจักรสุโขทัยซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 1781 ขยายดินแดนออกไปอย่างกว้างขวางในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช นอกจากนี้ ในรัชสมัยของพระองค์ยังมี แต่เสถียรภาพของอาณาจักรได้อ่อนแอลงภายหลังการสวรรคตของพระองค์ อาณาจักรอยุธยาก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 1893 มีความยิ่งใหญ่กว่าอาณาจักรสุโขทัยเดิม เนื่องจากมีการติดต่อกับชาติตะวันตก ก่อนจะล่มสลายลงอย่างสิ้นเชิงใน พ.ศ. 2310 พระยาตากได้รวบรวมไพร่พลกอบกู้เอกราช และย้ายราชธานีมาอยู่ที่กรุงธนบุรี ต่อมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325
การลงนามในสนธิสัญญาเบาว์ริง ทำให้ชาติตะวันตกหลายชาติเข้ามาทำสนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรมอีกหลายฉบับ ต่อมา แม้จะมีการเสียดินแดนหลายครั้งให้แก่ฝรั่งเศสและอังกฤษ แต่อาณาจักรสยามก็ไม่ตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก กุศโลบายของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้ไทยเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยอยู่ฝ่ายเดียวกับฝ่ายพันธมิตร ทำให้สยามได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ อันนำมาซึ่งการแก้ไขสนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรมทั้งหลาย
วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองมาเป็นประชาธิปไตย ทำให้คณะราษฎรเข้ามามีบทบาทในทางการเมือง ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยได้ลงนามเป็นพันธมิตรทางทหารกับญี่ปุ่น ในช่วงสงครามเย็น ประเทศไทยได้ดำเนินนโยบายเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา โดยมีนโยบายต่อต้านการขยายตัวของคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค
หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ประเทศไทยยังถือได้ว่าอยู่ในระบอบเผด็จการในทางปฏิบัติอยู่หลายทศวรรษ ประเทศไทยประสบกับความไร้เสถียรภาพทางการเมือง และได้มีการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลทหารผ่านการก่อรัฐประหารหลายสิบครั้ง อย่างไรก็ดี หลังจากนั้นได้มีเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยครั้งสำคัญในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ประชาธิปไตยในประเทศเริ่มมีความมั่นคงยิ่งขึ้น ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเกิดวิกฤตการณ์การเมือง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2548

ประวัติกีฬาฟุตบอลในประเทศไทย

ประเทศไทยเรานั้นได้มีการเล่นฟุตบอลในสมัยต้นรัชกาลที่ 6 เนื่องจากในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ส่งลูกหลานและข้าราชบริพารไปเรียนอังกฤษ จึงได้รับเกมนี้กลับเมืองไทยและผู้นำฟุตบอล กลับมายังประเทศไทยคนแรกเมื่อปี พ.ศ.2440 คือ พระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา)หรือ “ครูเทพ” ผู้แต่งเพลงกราวกีฬา ซึ่งเป็นเพลงอมตะของไทย เนื้อเพลงกอร์ปด้วยคุณธรรม จริยธรรมเพรียบพร้อมไปด้วยน้ำใจนักกีฬาอย่างแท้จริง การแข่งขันฟุตบอลครั้งแรกเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2443 (ร.ศ.119) ณ สนามหลวง ระหว่างชุดบางกอกกับชุดกรมศึกษาธิการซึ่งเรียกการแข่งขันครั้งนี้ว่า “แอสโซซิเอชั่นฟุตบอล” (ประโยค สุทธิสง่า, 2538: 1-2)

เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ตั้งเป็นสมาคมฟุตบอลแห่งสยามขึ้น และได้ตั้งทีมฟุตบอลชื่อ “โฮ้วป่า” (เสือป่า) เป็นทีมของพระองค์ ต่อมาได้เป็นภาคีสมาชิกฟุตบอลระหว่างชาติ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ได้ทรงโปรดเกล้าฯให้ตั้งกรรมการดำเนินการขึ้น ซึ่งกิจการก็ดำเนินมาด้วยดี และได้ตราเป็นข้อบังคับใช้ ต่อมาได้เปลี่ยนแปลงและปรับปรุงข้อบังคับเพื่อให้เหมาะสมกับกาลสมัยได้ดี การแก้ไขครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2471 ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ.2493 และครั้งที่ 3 เมื่อ พ.ศ.2499 และครั้งที่ 4 คือ พ.ศ. 2512 และในครั้งที่ 3 ให้เรียกข้อบังคับนั้นว่า “ข้อบังคับลักษณะปกครอง” และเรียกสมาคมเสียใหม่ว่า “สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ อักษรย่อว่า “ส.ฟ.ท.” และเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า The Football Association of Thailand under the Royal Patronage of His Majestic The King อักษรย่อว่า F.A.T สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2495 โดยเปิดการแข่งขันประเภทถ้วยใหญ่และถ้วยน้อย จนกระทั่งปี 2514 ได้เปลี่ยนวิธีการแข่งขันประเภท ก.ข.ค.ง. ตามแบบอย่างอังกฤษดังปัจจุบันนี้ นอกจากนั้นได้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค 2 ครั้ง คือปี 2499 และปี 2511 ที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และเมืองเม็กซิโกซิตี้ประเทศเม็กซิโก และได้เข้าร่วมกีฬาเอเชียนเกมส์และเซียบเกมส์เกือบทุกครั้ง ได้เคยเป็นแชมเปี้ยนร่วมกับพม่าในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 3 ได้เคยเป็นแชมเปี้ยนฟุตบอลเยาวชน ครั้งที่ 5 และครั้งที่ 11 ที่กรุงเทพฯ ทีมฟุตบอลไทยได้ไปร่วมในกีฬาฟุตบอลฉลองเอกราชมาเลเซียทุกครั้งและไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับพม่า เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซียอยู่เนืองนิตย์ นักฟุตบอลไทยได้เคยถูกยกย่องให้เป็นดาราฟุตบอลเอเซีย 4 คน คือนายสุชาติ มุทุกันต์ นายวิชิต แย้มบุญเรือง นายอัศวิน ธงอินเนตร และนายณรงค์ สังขสุวรรณ สมาคมฟุตบอลไทยได้เคยส่งนักฟุตบอลไทยไปเรียนวิชาฝึกฟุตบอล 1 คน คือ นายสำรวย ไชยยงค์ สมาคมฟุตบอลได้โค้ชอังกฤษ มาช่วยสอนโค้ชไทย คือ มิสเตอร์ วอลเลย์ บาล และเคยได้มิสเตอร์เดทมาร์เมอร์ มาอบรมโค้ชไทยถึงสองครั้งสองคราวในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และในการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนครั้งที่ 8 นอกจากนั้นมี ผู้สนใจฝึกฟุตบอลไปเรียนที่อังกฤษ คือ นายทวีพงษ์ เสนีย์วงศ์ และนายสุเมธ แก้วทิพย์เนตร ซึ่งขี่จักรยานไปเรียนเช่นเดียวกัน ซึ่งในระยะหลังสโมสรกีฬาต่างนิยมส่งคนไปอบรมอยู่เรื่อยๆ
จากสภาพการปัจจุบัน สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้รับเกียรติยศชื่อเสียงเป็นที่ ปรากฏ และประจักษ์แจ้งแก่มวลสมาชิกฟุตบอลนานาชาติ ตัวอย่าง ประเทศเกาหลีได้จัดฟุตบอล เพรสซิเด้นคัพปี 2530 ได้เชิญทีมฟุตบอลทีมชาติเอเซียเข้าร่วมเพียงทีมเดียว คือทีมฟุตบอลชาติไทยเท่านั้นแสดงว่าสมาคมฟุตบอลไทยได้บริหารทีมฟุตบอลให้เป็นทีมที่มีมาตรฐานสูงสุดจนเป็นที่ยอมรับของเอเซียในปัจจุบัน และต่อจากนี้ไปในปี พ.ศ. 2534 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้วางแผนพัฒนาทีมฟุตบอลชาติไทยให้ยิ่งใหญ่ขึ้น

สภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินการแข่งขันฟุตบอลระดับชาติขึ้นภายในประเทศ เพื่อเป็นการแสดงถึงความกตัญญู ความจงรักภักดี และเป็นการเทิดพระเกียรติแด่ผู้ให้กำเนิดสมาคมและราชวงศ์จักรีวงศ์สืบต่อไป ดังมีอุดมการณ์ที่สำคัญ 5 ประการคือ
1. เป็นการเทิดพระเกียรติและพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2. เป็นการกระชับสัมพันธภาพกับนานาชาติในเครือสมาชิก
3. เป็นการยกระดับมาตรฐานการกีฬาฟุตบอล
4. เป็นการเผยแพร่ความนิยมกีฬาฟุตบอลแก่นักกีฬาและประชาชน
5. เป็นการหารายได้ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล
สภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ลงมติให้ส่งหนังสือไปยังราชเลขาธิการเพื่อกราบบังคมทูลพระกรุณาขอรับพระราชทานพระบรมราชานุญาต จัดดำเนินการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ในปีพุทธศักราช 2511 และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต พร้อมทั้งพระราชทานถ้วยทองสำหรับทีมชนะเลิศ ถ้วยพระราชทานนี้จะไม่เป็นกรรมสิทธิ์แก่ทีมฟุตบอลใด จะต้องทำการแข่งขันชิงความเป็นผู้ชนะเลิศในทุกๆ ปี

ประวัติความเป็นมาวันสงกรานต์


จากประวัติที่เล่าสืบต่อกันมานั้น มีปรากฎในศิลาจารึกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามว่า เศรษฐีคนหนึ่งไม่มีบุตร บ้านอยู่ใกล้กับนักเลงสุรา ซึ่งมีบุตร 2 คน มีผิวเนื้อเหมือนทอง วันหนึ่งนักเลงสุรานั้นเข้าไปกล่าวคำหยาบคายต่อเศรษฐี เศรษฐีจึงถามว่าเหตุใดจึงมาหมิ่นประมาทต่อเราผู้มีสมบัติมากนักเลงสุราจึงตอบว่า ถึงท่านมีสมบัติก็ไม่มีบุตร ตายแล้วสมบัติก็จะสูญเปล่า เรามีบุตรเห็นว่าประเสริฐกว่า ท่านเศรษฐีมีความละอายใจจึงบวงสรวงพระอาทิตย์ พระจันทร์ ตั้งอธิษฐานขอบุตรถึงสามปีก็มิได้มีบุตรอยู่มาถึงวันนักขัตฤกษ์สงกรานต์ พระอาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ เศรษฐีจึงพาบริวารไปยังต้นไทรอันเป็นที่อยู่แห่งฝูงนกทั้งปวงริมฝั่งน้ำ จึงเอาข้าวสารล้างน้ำ 7 ครั้ง แล้วหุงขึ้นบูชาพระไทรประโคมพิณพาทย์ตั้งอธิษฐานขอบุตร พระไทรมีความกรุณาจึงเหาะไปเฝ้าพระอินทร์ พระอินทร์จึงให้ธรรมบาลเทวบุตรลงมาปฏิสนธิในครรภ์ภรรยาเศรษฐี เมื่อคลอดแล้วจึงให้ชื่อว่าธรรมบาลกุมาร ปลูกปราสาทเจ็ดชั้นให้อยู่ใต้ต้นไทรริมฝั่งน้ำนั้น กุมารเจริญขึ้น ก็รู้ภาษานกแล้วเรียนไตรเพทจบ เมื่ออายุได้เจ็ดขวบได้เป็นอาจารย์บอกมงคลการต่าง ๆ แก่มนุษย์ทั้งปวงในขณะนั้นโลกทั้งหลายนับถือท้าวมหาพรหม และกบิลพรหมองค์หนึ่งว่า เป็นผู้แสดงมงคลแก่มนุษย์ทั้งปวง เมื่อกบิลพรหมทราบจึงลงมาถามปัญหาธรรมบาลกุมาร 3 ข้อ สัญญาไว้ว่าถ้าแก้ปัญหาได้จะตัดศีรษะบูชา ถ้าแก้ไม่ได้จะตัดศีรษะธรรมบาลกุมารเสีย ปัญหานั้นว่า


ข้อ 1 เช้าราศีอยู่แห่งใด ข้อ 2 เที่ยวราศีอยู่แห่งใด ข้อ 3 ค่ำราศีอยู่แห่งใด
ธรรมบาลกุมารขอผลัด 7 วันเพื่อตอบปัญหา ครั้นล่วงไปได้หกวันธรรมบาลกุมารก็ยังคิดไม่ได้จึงนึกว่าพรุ่งนี้จะตายด้วยอาญาท้าวกบิลพรหมไม่ต้องการ จำจะหนีไปซุกซ่อนตายเสียดีกว่า จึงลงจากปราสาทไปนอนอยู่ใต้ต้นตาล 2 ต้น มีนกอินทรี 2 ตัว ผัวเมียทำรังอยู่บนต้นตาลนั้น ครั้นเวลาค่ำนางนกอินทรีจึงถามสามีว่า พรุ่งนี้จะได้อาหารแห่งใด สามีบอกว่าจะกินศพธรรมบาลกุมารซึ่งท้าวกบิลพรหมจะฆ่าเสียเพราะทายปัญหาไม่ออกนางนกถามว่าปัญหานั้นอย่างไรสามีจึงบอกเล่าปัญหาให้เมียฟังนางนกถามว่าจะแก้อย่างไรสามีบอกว่าเช้าราศีอยู่ที่หน้ามนุษย์จึงเอาน้ำล้างหน้าเวลาเที่ยงราศีอยู่ที่อก มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาเครื่องหอมประพรมที่อก เวลาค่ำราศีอยู่ที่เท้ามนุษย์ทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างเท้า ธรรมบาลกุมารได้ยินดังนั้นก็กลับไปปราสาท วันรุ่งขึ้นท้าวกบิลพรหมถามปัญหาธรรมบาลกุมารก็แก้ตามที่ได้ยินมา ท้าวกบิลพรหมจึงตรัสเรียกเทพธิดาทั้ง 7 อันเป็นบริจาริกาพระอินทร์มาพร้อมกันแล้ว บอกว่าเราจะตัดศีรษะบูชาธรรมบาลกุมาร ศีรษะของเราถ้าตั้งไว้บนแผ่นดิน ไฟจะไหม้ทั่วโลก ถ้าทิ้งขึ้นบนอากาศ ฝนก็จะแล้ง ถ้าทิ้งในมหาสมุทรน้ำก็จะแห้ง จึงให้ธิดาทั้ง 7 นั้นเอาพานมารับศีรษะ แล้วก็ตัดศีรษะส่งให้ธิดาองค์ใหญ่นางจึงเอาพานมารับพระเศียรบิดาไว้ แล้วแห่ทำประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที แล้วก็เชิญประดิษฐานไว้ในมณฑปถ้ำคันธุรีเขาไกรลาศ บูชาด้วยเครื่องทิพย์ต่าง ๆ พระเวสสุกรรมก็นฤมิตร แล้วด้วยแก้วเจ็ดประการ ชื่อภควดีให้เป็นที่ประชุมเทวดา เทวดาทั้งปวงก็นำเอาเถาฉมูลาดลงมาล้างในสระอโนดาตเจ็ดครั้งแล้ว แจกกันสังเวยทุก ๆองค์ ครั้นถึงครบกำหนด 365 วันโลกสมมุติว่าปีหนึ่งเป็นสงกรานต์นางเทพธิดาเจ็ดองค์จึงผลัดเวรกันมาเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมออกแห่ประทักษิณเขาพระสุเมรุทุกปี ธิดาทั้ง 7 ของท้าวกบิลพรหม ซึ่งเราสมมุติเรียกว่านางสงกรานต์นั้น มีชื่อต่าง ๆ ดังนี้ คือ
ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันอาทิตย์ นางสงกรานต์มีชื่อว่า ทุงษ
ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันจันทร์ นางสงกรานต์มีชื่อว่า โคราด
ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันอังคาร นางสงกรานต์มีชื่อว่า รากษส
ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันพุธ นางสงกรานต์มีชื่อว่า มัณฑา
ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันพฤหัสบดี นางสงกรานต์มีชื่อว่า กิริณี
ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันศุกร์ นางสงกรานต์มีชื่อว่า กิมิทา
ถ้าปีใดวันสงกรานต์ ตรงกับวันเสาร์ นางสงกรานต์มีชื่อว่า มโหทร

ประวัติวันวาเลนไทน์

วาเลนไทน์ ในแต่ละประเทศจะมีประเพณีหรือการ ปฏิบัติที่แตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมแล้ว จะมีการเฉลิมฉลองและเป็นการแสดงถึง ความรัก
ที่มีระหว่างกัน ต่อมาเมื่อความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางด้าน การพิมพ์เข้ามาเกี่ยวข้องมีการพิมพ์บัตร อวยพรโดยเข้ามาแทนที่จดหมายที่เขียนด้วยลายมือ และปัจจุบันก็มีการส่งบัตรอวยพรทางออนไลน์เพื่อ
แสดงถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วย ให้คนที่ต้องการ


แสดงความรักความห่วงใย ถึงคนที่รักได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ประวัติ วันวาเลนไทน์นี้ เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆกันมา จนถึงปัจจุบัน เท่าที่ค้นหามาได้นี้เป็นเพียง หนึ่งในหลายๆเรื่องเท่านั้น แต่ไม่ว่าประวัติ ที่แท้จริง จะเป็นอย่างไรก็ตาม ใน ปัจจุบัน นี้เราได้ถือว่าวันวาเลนไทน์เป็น วันสำคัญวันหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยที เดียว คุณสามารถส่งดอกไม้ ขนมและ การ์ด เพื่อบอกความนัยให้แก่คนพิเศษ ของคุณ วันนี้จะเป็นวันที่เราส่งความรู้สึก ดีๆให้แก่กัน...

วัฒนธรรมไทยที่เก่าแก่ยาวนานที่สุด คือ . . .



พวงมาลัย คือพวงดอกไม้ประดิษฐ์ ที่นำดอกไม้ ใบไม้ ต่าง ๆ เช่น กลีบดอกกุหลาบมอญ ดอกพุต ดอกรัก ดอกผกากรอง ใบแก้ว ดอกข่า ดอกมะลิ ดอกบานไม่รู้โรย ดอกเล็บมือนาง บานบุรี หงอนไก่ รักเร่ เฟื่องฟ้า มาร้อยเป็นพวงมาลัย โดยมักจะนำมาใช้กราบไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงนำไปไหว้ บิดามารดา ญาติผู้ใหญ่ ตามเทศกาลต่าง ๆ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เคยสำรวจพฤติกรรมการซื้อพวงมาลัยของคนกรุงเทพฯ พบว่า คนกรุงเทพฯ มีค่าใช้จ่ายในการซื้อพวงมาลัย 1 ปีตกอยู่ที่ 500 ล้านบาท
นอกจากพวงมาลัยสดแล้ว ยังมีพวงมาลัยดินที่ทำมาเลียนแบบมาลัยจริง แต่ทำจากดินไทย เพื่อให้เก็บรักษา และเป็นของที่ระลึก มักนำจำหน่ายต่างประเทศ




ปลาตะเพียนสาน เป็นงานประดิษฐ์ที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทย เดิมมักใช้ใบลานมาทำเป็นเส้นแผ่นยาวๆบางๆมาตากแดด 2-3 นาที แล้วมาสานเป็นรูปปลาตะเพียน เนื่องจากใบลานมีโครงสร้างที่แข็งแรง แล้วลงสีให้สวยงาม จากนั้นก็นำมาประกอบเป็นโมบาย สมัยก่อนคนไทยมีอาชีพทำนากันเป็นส่วนใหญ่ ในคูคลองก็จะมีปลาตะเพียนเป็นจำนวนมาก ปลาตะเพียนสานจึงเป็นสัญญลักษณ์แห่ง ความอุดม สมบูรณ์ เนื่องจากช่วงที่ ปลาโตเต็มที่นั้น เป็นช่วงเดียวกับ ช่วงเวลาที่ ข้าวตกรวง นอกจากนี้ผู้ใหญ่มักจะแขวน ปลาตะเพียนสาน ไว้เหนือเปลเด็ก เพื่อเป็นการอวยพร ให้เด็กสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย ปลาตะเพียนสาน มี 2 ชนิด คือ ชนิดลวดลายและตกแต่งสวยงาม ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 และอีกชนิดหนึ่งเป็นเพียงสีใบลานตามธรรมชาติ





การไหว้ เป็นมารยาทไทยที่เป็นวัฒนธรรมการทักทาย เวลาพบปะกันหรือลาจากกัน "การไหว้" เป็นการแสดงถึงความมีสัมมาคารวะ และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน นอกเหนือจากการกล่าวคำว่า "สวัสดี" แล้วยังแสดงออกถึงความหมาย "การขอบคุณ" และ "การขอโทษ" การไหว้เป็นการแสดงมิตรภาพ มิตรไมตรี ที่เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม โดยยกมือสองข้างประณม นิ้วชิดกัน ปลายนิ้วจรดกัน ไม่แยกปลายนิ้วออกจากกัน ยกมือขึ้นในระดับต่างๆ ตามฐานะของบุคคล เเละเมื่อมีผู้ทำความเคารพด้วยการไหว้ ต้องรับไหว้ทุกครั้ง การรับไหว้ใช้ประณมมือแค่อก แล้วยกขึ้นเล็กน้อย ก้มศีรษะ

ยินดีต้อนรับ และ ยินดีที่ได้รู้จัก จ่ะ ทุก ๆ คน

>>>CLICK ! ! !<<< เม้นน นน นน ๆ กันด้วย นะ คับ
ส่วนนี่ facebook ผมคับ Click


THANK YOU . . .



อยากบอกอะไรกับนัทคนนี้ ?

Powered By Blogger

ความคิกเห็นถึงบล็อกนี้ >>>